ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยืนยัน มีมาตรการดูแลและสังเกตการณ์ผู้ก่อเหตุฆ่าตัวตายเข้ม ระมัดระวังจุดเสี่ยง มีการติดตั้งแผงเหล็กป้องกันเพิ่มเติม
ภายหลังเกิดเหตุผู้โดยสารชาวตะวันตก พลัดตกในอาคารผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ เสียชีวิตเมือวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดประเด็นที่น่าสงสัย คือ ผู้เสียชีวิตได้ทำการเช็กอินและผ่านการตรวจคนออกเมืองตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. แต่ไม่ได้เดินทาง โดยที่สายการบินไม่ทราบเรื่อง
รวมทั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวชาวบราซิล กระโดดอาคารผู้โดยสารจากชั้น 3 ลงมาพื้นที่ชั้น 2 บริเวณประตูทางออกที่ 3 ของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ. สมุทรปราการ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยทั้ง 2 เหตุการณ์ถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องมาตรการดูแลพื้นที่ เพราะเกิดในเวลาไล่เลี่ยกัน
นางสาวดาลัด อัศเวศน์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายสนับสนุนธุรกิจ) ปฏิบัติงานแทนผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีมาตรการดูแลความปลอดภัยที่เพียงพอ ทั้งในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่ผสมที่คอยสอดส่องพฤติกรรมของผู้โดยสารแลผู้ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย รวมถึงมีการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานภายนอกที่เข้ามาปฏิบัติงานพื้นที่ หรือ Outsource อยู่เป็นประจำเพื่อสามารถรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินเช่นกรณีผู้เจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้น ส่วนพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเป็นที่สูง ทางท่าอากาศยานสุวรรรภูมิได้มีการลงทุนติดตั้งแผงเหล็กเครื่องกันไปทุกจุดแล้ว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสองเหตุการณ์นี้ยอมรับว่า ผู้โดยสารที่ตกลงจากที่สูงนั้นเจตนาที่จะกระโดดลงมาเพื่อฆ่าตัวตาย จากปัญหาเรื่องส่วนตัว โดยก่อนหน้า 2 เหตุการณ์นี้มีผู้โดยสาร 1 ราย ที่เตรียมกระโดดจากที่สูง แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจับตัวไว้ได้ทัน
อย่างไรก็ตาม การที่มีผู้พยายามฆ่าตัวตายในพื้นที่ก็ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดกับสนามบินบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการเดินทาง มีการลาจาก บางครั้งต้องจากคนที่รักและทำใจไม่ได้ จึงตัดสินใจคิดสั้นขึ้นฉับพลัน ท่าอากาศยานก็ทำได้เพียงระวังเหตุเท่านั้น
ทั้งนี้ สุวรรณภูมิ ถือเป็นท่าอากาศยานที่มีผู้มาฆ่าตัวตายและพยายามที่จะฆ่าตัวตายอย่างต่อเนื่อง ทุกปีเฉลี่ย3-4 ราย โดยเฉพาะสะพานทางเชื่อมระหว่างอาคารผู้โดยสาร และอาคารจอดรถ 5 ชั้น ที่เกิดเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ดูแลพื้นที่เขตสนามบินฯ ระบุว่า ผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่มักจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เกิดปัญหาและประชดชิวิตต่าง ๆ ทั้งในเรื่องความรัก เครียด จึงคิดตัดสินใจสั้นหรือบางรายก็มีสติไม่สมประกอบ หรือเมาสุรา
โดยท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ได้จัดทำกระจกกั้นด้านนอกของสะพานชั้น 4 มีความยาวประมาณ 500 เมตร และ บริเวณทางเชื่อมประตูเข้าอาคารผู้โดยสารอีก 10 ประตู ๆ ละ 20 เมตร รวมเป็นเป็นความยาว 200 เมตร ตลอดแนว โดยผนังเดิมมีความสูงประมาณ 1.50 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวมักปืนข้ามไปแล้วกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย จึงเสนอให้ทำผนังเป็นกระจกให้มีความสูงประมาณ 1.80-2.00 เมตร เพื่อป้องกันการปีนของนักท่องเที่ยว ภายใต้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท เพื่อป้องกันการก่อเหตุคิดสั้น
The post เฝ้าระวัง “สุวรรณภูมิ” หลังนักเดินทางนิยมฆ่าตัวตาย appeared first on Smart SME.
No comments:
Post a Comment