นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank (ธพว.) กล่าวว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวน 5.2 ล้าน จดทะเบียนนิติบุคคลแล้วกว่า 5 แสนราย คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 11-12 ที่มีการทำบัญชีเป็นมาตรฐาน แต่ยังมีรายย่อยไม่พร้อมทำบัญชีเดียวประมาณ 3 ล้านราย เป็นรายย่อยขนาดเล็กไม่มีความรู้ ไม่รู้ข้อมูลว่ามีข้อกำหนด หรือลังเล ไม่ใส่ใจเรื่องการทำ บัญชีเดียว เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับรายย่อยที่ไม่เคยจัดทำบัญชีในการหามาตรการช่วยเหลือ จึงเตรียมหารือกับกระทรวงคลัง กระทรวงอุตสหกรรม สถาบันการเงินของรัฐ สภาอุตสหากรรฯ สภาหอการค้าไทย เพื่อขยายข้อกำหนดการจัดทำบัญชีเดียวออกไปอีก 1 ปี หวังลดผลกระทบกับรายย่อย
เพื่อหามาตรการเยียวยาผ่อนปรนกฎเกณฑ์ให้รายย่อยเข้าถึงแหล่งทุน จากนั้นจะเปิดให้เอสเอ็มอีรายย่อยมาลงทะเบียนเพื่อขยายเวลาการจัดทำบัญชีเล่มเดียวเฉพาะกลุ่มที่ต้องการให้ช่วยเหลือ รวมทั้งการเสนอตั้งกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีแนวประชารัฐ เดิมมีเงินเหลืออยู่ 8,000 ล้านบาท ใช้แล้วเหลือไม่เกิน 2,000 ล้านบาท เพื่อนำกองทุนดังกล่าวไปช่วยเหลือดูแลและส่งเสริมให้เอสเอ็มอีปรับตัวเพื่อทำบัญชีเดียว เพื่อส่งเสริมให้คนไม่รู้ ได้รู้จัดการทำบัญชี และปรับทัศนคติการทำบัญชี สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระบบ มองว่าเมื่อเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยง ทั้งราคาน้ำมันและสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน การปรับเพิ่มดอกเบี้ยอาจได้รับผลกระทบต่อเอกชนหลายส่วนโดยเฉพาะรายย่อย และสภาพคล่องในระบบยังสูงถึง 2 ล้านล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เสนอแนะให้ ธปท.แก้ไขบทเฉพาะกาลข้อกำหนดเรื่องการจัดทำบัญชีเดียวแม้จะเริ่มโครงการมาแล้ว 2 ปี แต่ผลสำรวจผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะกลุ่มรายย่อยไม่ทราบข้อมูลข้อกำหนดการจัดทำบัญชีเดียว จึงเสนอขยายเวลาออกไปอีก 1 ปี เพื่อนำหลักฐานการเงินแสดงฐานะการเงินในการขอสินเชื่อ และรายเล็กรายย่อยร้อยละ 60-70 พร้อมจัดทำบัญชีเดียว ได้รับการพัฒนาอบรมการจัดทำบัญชีหากได้รับการพิจารณาปล่อยสินเชื่อ
The post เสนอยืดจัดทำบัญชีเดียวอีก 1 ปี หวั่นกระทบกับรายย่อย appeared first on Smart SME.
No comments:
Post a Comment