ณ บริษัท LINE ประเทศไทย, ลูกค้า AIS Serenade ได้รับโอกาสให้เข้าร่วม Workshop สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อไขกุญแจสู่ความสำเร็จกับ AIS Serenade กับกิจกรรม AIS Serenade The Ultimate Inspiration สร้างแรงบันดาลใจสู่ความคิด “ต่อยอดทางธุรกิจ พิชิตยอดขายบนโลกออนไลน์” กับ 2 ธุรกิจสุดฮิต อย่างร้านอาหารและร้านค้าออนไลน์ โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างแรงบันดาลใจในการต่อยอดธุรกิจ พร้อมกลยุทธ์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ
ช่วงแรก คุณบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ AIS (ชุดขาวตรงกลาง) กล่าวว่า ปัจจุบัน AIS มีลูกค้าทั้งสิ้น 40 ล้านราย แบ่งเป็นหลายกลุ่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกลุ่ม SMEs ที่ทาง AIS ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และจากการศึกษาพบว่า SMEs ส่วนใหญ่ต้องการแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรม AIS Serenade The Ultimate Inspiration พร้อมการร่วมมือกันกับระหว่างองค์กรชั้นนำอย่าง LINE ผู้นำด้านแพลตฟอร์มระดับโลก เพื่อเข้าไปดูบรรยากาศสถานที่ทำงาน ที่มีแนวคิดของออฟฟิศยุคใหม่ สามารถตอบโจทย์การทำงานของคนรุ่นใหม่และมอบความรู้ในการทำธุรกิจผ่านโมบายแพลตฟอร์มอย่างมีประสิทธิภาพ จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง
อาทิ กลยุทธ์การใช้ LINE@ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า, กลยุทธ์การต่อยอดธุรกิจเพื่อเพิ่มยอดขาย ด้วยบริการ LINE Man, เปลี่ยนวิธีจัดการร้านอาหารในยุคดิจิทัลอย่างมืออาชีพด้วย Food Solution และซื้อง่าย ขายคล่อง กับช่องทาง Rabbit LINE Pay ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นประสบการณ์ดีๆที่ AIS Serenade ตั้งใจมอบให้ลูกค้า AIS SMEs ทุกคน
จากนั้น คุณสุชาติ ภวสิริพร Director of Human Resources and General Administration บริษัท LINE ประเทศไทย บรรยายในหัวข้อ “LINE กับการสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรม ในสังคมไทยยุคดิจิทัล”
คุณสุชาติเล่าว่า หน้าที่ของ LINE คือ “Closing the Distance” ซึ่งเป็นการนำผู้คน, ข้อมูลข่าวสารและการให้บริการมารวมไว้ด้วยกัน จนกลายเป็นการพัฒนาบริการต่างๆมากมายเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด
บริษัท LINE มีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างครอบครัวมีความเคารพและถ่อมตัวให้กัน ขณะเดียวกันก็ต้องสามารถบาลานซ์กับความเป็นมืออาชีพได้ ตระหนักถึงความเป็นเจ้าของในสิ่งที่ทำอยู่และเน้นการสื่อสารภายในองค์กรแบบเปิดกว้างทั้งในรูปธรรมและนามธรรม ทำให้เกิดไอเดียและนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมากมาย
ปัจจุบันมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทยกว่า 45 ล้านคน โดยมีผู้ใช้แอปพลิเคชัน LINE มากกว่า 42 ล้านคน มีอัตราการใช้สมาร์ทโฟน 216 นาทีต่อวัน แบ่งเป็นการใช้ LINE 63 นาที และถือได้ว่าเป็นแอปพลิเคชันหลักของคนทุกช่วงทุกวัยในประเทศ มียอดดาวน์โหลดสติกเกอร์ในปี 2017 กว่า 500 ล้านเซ็ต และ LINE ประเทศไทยยังมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น
คุณสกุลรัตน์ ตันยงศิริ Head of LINE@ บริษัท LINE ประเทศไทย บรรยายหัวข้อ “สร้างธุรกิจและกลยุทธ์การใช้ LINE@ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า เป้าหมายได้ตรงใจ โอกาสผู้ประกอบการไทยในยุค Thailand 4.0”
คุณสกุลรัตน์เล่าว่า การทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ต้องรวดเร็ว ทันกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ต้องรู้จักพฤติกรรมลูกค้าและสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรู้จักนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาช่วยลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ
จากข้อมูลของกรมธุรกิจการค้าพบว่ามูลค่าของธุรกิจอาหารสูงถึง 400,000 ล้านบาท มีการเติบโตเฉลี่ย 2-5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยเฉพาะธุรกิจแฟรนไชส์อาหารที่ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับ 1 และเติบโตในธุรกิจ e-Commerce มาเป็นอันดับ 4 ซึ่งเท่ากันกับเครื่องใช้ในครัวเรือนและของแต่งบ้าน โดยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นกว่า 23% ส่วนอับดับ 1 คือ ธุรกิจแฟชั่นและความงาม 38% อันดับ 2 เกม 30% อันดับ 3 ท่องเที่ยวและที่พัก 29% อันดับ 5 อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า 14%
โดยการจะเข้าถึงพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ก็ต้องใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่ง LINE@ ก็เป็นอีกช่องทางในการช่วยสร้างโอกาสให้ SMEs ได้ เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ทุกธุรกิจ ทำการตลาดแบบ O2O ได้ ทำให้มีผู้ประกอบการหันมาใช้ LINE@ กว่า 2 ล้านบัญชี ที่สำคัญยังสามารถเลือก Broadcast เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการส่งถึงลูกค้าเพียงคนเดียว การระบุกลุ่มเพศกลุ่มอายุ หรือการส่งถึงทุกยูสเซอร์ที่เป็นสมาชิก การทำ Rich Menu เพื่อให้ข้อมูลและโต้ตอบกับลูกค้า รวมถึงการทำ Nearby หนึ่งในฟีเจอร์ที่จะช่วยผู้ใช้ LINE ค้นหาร้านค้าและบริการใกล้ตัว นอกจากนั้นยังได้มอบความรู้ในการใช้งานฟีเจอร์อื่นๆอีกมากมายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
คุณธารวิทย์ ดิษยวงศ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ LINE MAN (บริการส่งพัสดุ) และคุณ คุณนพปฎล วชิรโกวิทย์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ LINE MAN ( บริการสั่งซื้ออาหาร) บรรยายหัวข้อ “กลยุทธ์การต่อยอดธุรกิจเพื่อเพิ่มยอดขายด้วยบริการ LINE MAN”
คุณธารวิทย์เล่าว่า LINE MAN ในอดีตหากต้องการส่งพัสดุ ซื้อสินค้า หรือใช้บริการแท็กซี่ ผู้บริโภคต้องเดินออกจากบ้านเพื่อไปทำกิจกรรมต่างๆเหล่านั้น โดยบริการของ LINE MAN คือการนำบริการต่างๆเหล่านั้นกลับมาหาผู้ใช้ ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 5 เซอร์วิส ได้แก่ FOOD DELIVERY บริการสั่งอาหาร, LINE MAN TAXI บริการเรียกแท็กซี่, POSTAL/Parcel บริการส่งพัสดุ, MESSENGER บริการแมสเซนเจอร์ และ CONVENIENCE บริการซื้อของสะดวกซื้อ โดยบริการต่างๆของ LINE MAN เกิดขึ้นมาจาก Pain Point ของคนไทย ทั้งเป็นการพัฒนาสร้างสรรค์โดยคนไทยเพื่อคนไทยอีกด้วย
คุณฐากูร ชาติสุทธิผล CEO บริษัท ลีฟวิ่ง โมบาย จำกัด บรรยายหัวข้อ “เปลี่ยนวิธีจัดการร้านอาหารในยุคดิจิทัลอย่างมืออาชีพด้วย Food Solution”
คุณฐากูรเล่าว่า ใน 10 ปีที่ผ่านมาธุรกิจร้านอาหารในบ้านเราไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก ร้านอาหารส่วนใหญ่ยังคงบริหารร้านอาหารในรูปแบบเดิมๆ คือการใช้กระดาษจดเมนูอาหารและเขียนบิล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็น Pain Point ของผู้ประกอบการร้านอาหารและเป็นที่มาในการพัฒนาระบบของ Food Story โดยทำการพัฒนานานกว่า 3 ปี จึงมั่นใจได้ในระบบที่มีความเป็นมืออาชีพและสามารถแก้ปัญหาให้ร้านอาหารได้จริง ระบบนี้จะช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพให้พนักงานและช่วยลดต้นทุนที่แปรผันได้ อย่าง 2 ปีที่ผ่านมาก็จะเห็นว่ามีธุรกิจร้านอาหารมากมายได้เปลี่ยนจาก Offline มาเป็น Online ซึ่งระบบของ Food Story จะต่างจาก POS ทั่วไป เพราะสามารถบริหารธุรกิจร้านอาหารได้ตั้งแต่ต้นจนจบ มีระบบการทำงานกว่า 600 ฟีเจอร์ ช่วยลดปัญหาการ Turnover Rate ของพนักงานได้ ถือเป็นระบบที่ช่วยให้พนักงานเข้าใจง่าย พร้อมวางระบบไว้บน Cloud เพียงแค่มีไอแพดก็สามารถใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะมีกี่โต๊ะหรือกี่สาขาก็จัดการได้ ในระบบ Ecosystem อย่างเต็มรูปแบบ
คุณภารดร วิชญภิญโญ Head of mPay Marketing and Sales บรรยายในหัวข้อ “เตรียมพร้อมสู่ยุคสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ซื้อง่าย ขายคล่อง กับช่องทาง Rabbit LINE Pay”
คุณภารดรเล่าว่า ในอนาคตประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างแน่นอน อย่างปัจจุบันทั่วโลกก็ได้ก้าวสู่สังคมไร้เงินสดแล้วกว่า 44% สิ่งนี้จึงทำให้มีโอกาสอีกมายมายสำหรับคนที่เข้ามาก่อน ทั้งยังมีช่วยให้ร้านค้ามีระบบและความปลอดภัย อย่างระบบ e-Wallet ก็ถือเป็นส่วนหนี่งในการช่วยสร้างโอกาส ยกตัวอย่าง Alipay ที่ครองตลาดด้านนี้สูงถึง 90% ในประเทศจีน ซึ่งการใช้ Rabbit LINE Pay เป็นอีกทางเลือกที่เต็มไปด้วยโอกาสมากมาย เนื่องจากครอบคลุมทั้งการจ่ายเงินใน Online และ Offline ตอบโจทย์ SMEs ที่ทำธุรกิจในทั้ง 2 รูปแบบ ที่สำคัญคือ Rabbit LINE Pay เป็นการผนึกกำลังของ 3 บริษัทชั้นนำอย่าง AIS, Line และ Rabbit จึงมีฐานลูกค้ามากมายพร้อมสร้างเครือข่ายอย่างยั่งยืน ที่สำคัญคือไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่ม เพราะสามารถใช้ผ่านแอปพลิเคชัน LINE ได้เลย พร้อมจัดเต็มด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมายเพื่อเอาใจทั้งลูกค้าและร้านค้า
นอกจากนั้นภายในงานยังมี Case Study SMEs ที่ประสบความสำเร็จเข้าร่วมบรรยาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจมากมาย พร้อม AIS ยังมีผู้เชี่ยวชาญให้บริการแบบ One on One เพื่อคอยให้คำปรึกษาและแนะนำโอกาสใหม่ๆ (Exclusive Consultant Clinic) เพื่อการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนบนโลกยุคดิจิทัลอีกด้วย
The post Serenade x LINE ต่อยอดธุรกิจ พิชิตยอดขาย กับ 2 ธุรกิจฮิต ร้านอาหารและร้านค้าออนไลน์ appeared first on Smart SME.
No comments:
Post a Comment