สิ่งที่ผู้บริหารธุรกิจบอกกับเราคือ ไม่มีใครอยากถูก Blockchain ทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งถึงแม้ว่า ตอนนี้จะเป็นระยะเริ่มต้นของการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ก็ตาม แต่ความกังวลต่อความไว้วางใจและกฎระเบียบข้อบังคับยังคงมีอยู่
บล็อกเชนที่ถูกออกแบบมาอย่างดีนั้น ไม่ได้เพียงช่วยตัดตัวกลางเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุน เพิ่มความรวดเร็ว การเข้าถึง ความโปร่งใส และตรวจสอบได้ให้กับกระบวนการในการดำเนินธุรกิจ ฉะนั้น หากผู้บริหารมีความเข้าใจอย่างแท้จริงว่า จะนำศักยภาพของเทคโนโลยีนี้มาใช้ได้อย่างไรก็จะทำให้เหตุผลทางธุรกิจมีน้ำหนักและสร้างความน่าดึงดูด
แม้ว่าประโยชน์ที่สำคัญของบล็อกเชนจะอยู่ที่การพัฒนาและส่งมอบผ่านแพลตฟอร์มที่มีการแลกเปลี่ยนระหว่างกันในกลุ่มอุตสาหกรรม แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากปราศจากการร่วมมือกันของหลายๆ ฝ่าย ซึ่งรวมไปถึงคู่แข่ง ที่ต้องมีการตกลงร่วมกันในเรื่องของมาตรฐานและข้อปฏิบัติที่จะนำมาใช้
คำว่าบล็อกเชน ตามคำจำกัดความ ถือเป็นเทคโนโลยีที่น่าจะก่อให้เกิดความไว้วางใจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว บริษัทหลายรายยังคงเผชิญกับปัญหานี้อยู่โดยตลอด ฉะนั้น การที่องค์กรไม่มีการจัดทำเหตุผลทางธุรกิจที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น ก็อาจทำให้ความก้าวหน้าของโครงการหยุดชะงักได้ ดังนั้น ธุรกิจจำเป็นต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการออกแบบเหตุผลทางธุรกิจที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของการสร้างความไว้วางใจ และความกังวลเกี่ยวกับกฎระเบียบให้ได้
การสร้างสรรค์ และการนำบล็อกเชนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ไม่ใช่โปรเจ็คงานทางด้านไอที แต่เป็นการเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการดำเนินธุรกิจ บทบาทหน้าที่ และกระบวนการต่างๆ ขององค์กร ผู้บริหารจำเป็นที่จะต้องสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนและสอดรับกับการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ พร้อมกับต้องมีกฎระเบียบ มาตรฐาน และความยืดหยุ่นในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นตามมา
ข้อมูลจาก : PwC
The post Blockchain ไม่ใช่โครงการด้านไอที แต่เป็นรูปแบบใหม่ของการดำเนินธุรกิจ appeared first on Smart SME.
No comments:
Post a Comment