Sunday, September 23, 2018

แนะคนขายอาหารเจ ชูคุณค่าสารอาหารดึงลูกค้า

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าเทศกาลกินเจปี 2561 ระหว่างวันที่ 9-17 ตุลาคมนี้ ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ จะมีเม็ดเงินใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเจสะพัดกว่า 4,650 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากจำนวนคนที่สนใจกินเจเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เลือกกินเจเป็นบางวันเฉลี่ยอยู่ที่ 4 วัน และมีค่าใช้จ่ายในการกินเจประมาณ 315 บาท/คน/วัน

ทั้งนี้ คนกรุงฯ ส่วนใหญ่ยังสนใจที่จะกินเจ โดยช่องทางหลักในการเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มเจ คือซื้อจากร้านอาหาร เพราะสะดวก ง่าย เข้ากับไลฟ์สไตล์ของชีวิตคนกรุงฯ ที่เร่งรีบและไม่ค่อยมีเวลา ส่วนรสชาติและภาพลักษณ์ของอาหารและเครื่องดื่มเจ ถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคคนกรุงฯ ค่อนข้างสูง ดังนั้น การปรับภาพลักษณ์อาหารเจให้ดูน่ารับประทานและมองเป็นอาหารเชิงสุขภาพจะช่วยให้กลุ่มผู้บริโภคมีทัศนคติและมุมมองต่ออาหารเจในเชิงบวกมากขึ้น ซึ่งเอื้อต่อโอกาสในการทำการตลาดปีนี้และปีต่อๆ ไป

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าระยะหลังจะมีกระแสเกี่ยวกับการบริโภคอาหารเจที่อาจทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร โดยเฉพาะโปรตีน แต่จากกระแสการปนเปื้อนสารพิษต่างๆ ในเนื้อสัตว์ รวมถึงโอกาสในการเจ็บป่วยหรือเป็นโรคง่ายขึ้น ยังเปิดกว้างให้อาหารเจมีโอกาสทำตลาดเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเจ ชูจุดขายเรื่องคุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วน มีประโยชน์เชิงสุขภาพ และสร้างความแปลกใหม่ให้กับเมนูอาหารและวัตถุดิบที่ใช้แตกต่างจากคู่แข่ง น่าจะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อเร็วขึ้น ซึ่งกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจได้โดยเฉพาะกับผู้บริโภคอาหารเจที่ไม่ได้จำกัดการบริโภคเฉพาะในช่วงเทศกาล

The post แนะคนขายอาหารเจ ชูคุณค่าสารอาหารดึงลูกค้า appeared first on Smart SME.

No comments:

Post a Comment