เวเนซุเอลาต้องพบกับวิกฤติทางเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ หลังมีเงินเฟ้ออยู่ในระดับขั้นรุนแรง แม้รัฐบาลจะออกพันธบัตร เปลี่ยนสกุลเงินใหม่ เพื่อให้ประชาชนเพียงพอต่อการดำรงชีพ
รายงานจากสำหนักข่าว AFP รายงานว่า คนเวเนซุเอลาจำนวนมากได้อพยพไปยังประเทศเปรู และบราซิลเป็นจำนวนมาก หลังต้องประสบกับปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพในการดำรงชีวิตที่สูงมาก เพราะสินค้าต่างๆ ในประเทศราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น เนื้อวัว ราคากิโลกรัมละ 9.5 ล้านโบลิวาร์ หรือราคาประมาณ 1,200 บาทไทย หรือแม้กระทั่งกระดาษชำระที่ขายม้วนละ 2.6 ล้านโบลิวาร์ หรือราคาประมาณ 340 บาทไทย ซึ่งล่าสุดอัตราเงินเฟ้อในเวเนซุเอลาทะยานไปอยู่ที่ 80,000% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่ผ่านมา รัฐบาลเวเนซุเอลา ตัดสินใจแก้วิกฤติทางเศรษฐกิจในครั้งนี้ด้วยการเปลี่ยนสกุลเงินจากเดิม Bolivar (โบลิวาร์) เป็นสกุลเงินใหม่ที่เรียกว่า “Sovereign Bolivar” พร้อมทั้งเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำของประเทศขึ้นอีก 3,000% เพื่อให้ประชาชนมีเงินเพียงพอในการดำรงชีพ
อย่างไรก็ตาม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในเวเนซุเอลาจะยังคงรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการแก้ปัญหาของรัฐบาลตามที่กล่าวมานั้นจะไม่ช่วยให้สถานการณ์ของประเทศดีขึ้น โดยคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของเวเนซุเอลาจะพุ่งแตะ 1 ล้านเปอร์เซ็นต์หลังจบปี 2018
ทั้งนี้ มีการวิเคราะห์กันว่า สาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจของเวเนซุเอลาต้องทรุดหนักแบบนี้ เป็นผลพวงมาจากการบริหารงานที่เน้นประชานิยมมาเป็นระยะเวลานาน รวมถึงเข้าไปแทรกแซงตลาด บิดเบือนราคาสินค้า
The post คนเวเนซุเอลา แห่หนีออกนอกประเทศ หลังวิกฤติเงินเฟ้อ คาดทะลุ 1 ล้านเท่าสิ้นปีนี้ appeared first on Smart SME.
No comments:
Post a Comment