เทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียง หรือ Voice Assistant เป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้งานอยู่ทั่วไปบนสมาร์ทโฟน อย่างที่รู้จักกันดีก็คือ Siri ในแอปเปิ้ล รวมถึง Alexa, Google, Cortana ของไมโครซอฟท์ และ Bixby ของซัมซุง แต่ปัจจุบันมีกระแสเรียกร้องให้ใช้งานในรถยนต์ก็เพิ่มขึ้น
การพัฒนาระบบ Voice Assistant ถือเป็นเรื่องท้าท้ายทั้งต่อผู้พัฒนาและโออีเอ็ม (OEMs) เพราะการทำให้เสียงออกมาเป็นธรรมชาติและใกล้เคียงมนุษย์ ถือว่ามีความสำคัญต่อการสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้บริโภค แต่ที่ไปกว่าก็คือการพัฒนาให้ระบบสามารถเข้าใจทุกภาษา, สำเนียงและน้ำเสียงของผู้ใช้ได้อย่างไม่มีที่ติ
ยกตัวอย่าง บ๊อช (Bosch) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในเยอรมันประกาศว่า “จะยุติความยุ่งยากของการมีปุ่มงานต่างๆ ในส่วนที่นั่งคนขับ” เพื่อผลักดันเทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียงในรถยนต์ไปสู่อีกระดับ โดยร่วมมือกับนักแปลที่มีประสบการณ์จำนวนมากในการพัฒนาระบบเพื่อใช้ใน 32 ภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียงของบริษัทรองรับกว่า 30 ภาษา และระบบ text-to-speech รองรับ 38 ภาษา โดยเป็นเสียงผู้หญิง 34 เสียง และผู้ชาย 9 เสียง
แม้ระบบจะทำหน้าที่ได้สมบูรณ์หรือมีลูกเล่นมากแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความปลอดภัยของผู้ใช้ ทั้งนี้ระบบสั่งการด้วยเสียงจะช่วยให้ผู้ขับรถไม่ต้องมองหาปุ่มกดหรือเลือกฟังก์ชั่นบนทัชสกรีน ซึ่งอาจเบี่ยงเบนความสนใจของคนขับจากการจราจรบนท้องถนน และการสั่งการด้วยเสียงโดยที่มือและตาของคุณไม่ต้องทำอะไรถือว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยในการจัดการงานต่างๆ
The post Voice Assistant การพัฒนาไปอีกขั้น เพื่อผู้ขับขี่ปลอดภัยในอนาคต appeared first on Smart SME.
No comments:
Post a Comment