เมืองซีแอตเทิล ในสหรัฐฯ ได้สั่งห้ามใช้หลอดพลาสติก โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ด้านธุรกิจร้านอาหารจำเป็นต้องปรับตัว เพราะหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะเสียค่าปรับเป็นเงิน 250 ดอลลาร์สหรัฐฯ
Kate Melges เจ้าหน้าที่องค์กรรักษ์สิ่งแวดล้อมจาก Greenpeace กล่าวกับสำนักข่าว CNN ว่าการออกข้อบังคับห้ามไม่ให้มีการใช้หลอดพลาสติกจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจภาคบริการไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร, ร้านขายของชำ, ร้านขายอาหารสำเร็จรูป, ร้านกาแฟ, ฟู้ดทรัค ตลอดจนโรงอาหารตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้สามารถปรับตัวด้วยการหันมาเลือกใช้หลอด หรือภาชนะที่ผลิตมาจากวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ เช่น กระดาษ, ไม้ไผ่ อย่างไรก็ตาม ทางเมืองซีแอตเทิลแนะนำว่าธุรกิจบริการปฏิบัติตามข้อบังคับนี้
“เรายืนยันมาตลอดว่าพลาสติกเป็นมลพิษต่อธรรมชาติ ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของ KIRO ที่เปิดเผยว่ามีพลาสติกถึง 40% ลอยอยู่ในมหาสมุทร ซึ่งส่วนใหญ่มากจากการใช้งานเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก” Kate Melges กล่าว
นอกจากนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา เมืองซีแอตเทิลได้เริ่มต้นดำเนินการลดของที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี 2009 ที่มีการแบนห้ามใช้โฟม ต่อมาในปี 2010 เริ่มออกมาตรการเกี่ยวกับภาชนะบริการอาหารให้มีการรีไซเคิลนำกลับมาใช้ใหม่ สามารถย่อยสลายได้
ขณะเดียวกัน ร้านค้าแบรนด์ดังในสหรัฐฯ เริ่มทยอยประกาศเลิกใช้หลอดพลาสติกเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ร้านสตาร์บัคส์, ร้านแมคโดนัลด์ และดังกิ้น โดนัท โดยร้านค้าทั้งหมดจะหันวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ และย่อยสลายได้
The post ซีแอตเทิลสั่งแบนห้ามใช้หลอดพลาสติก appeared first on Smart SME.
No comments:
Post a Comment